บ้านพอด

เนื้อที่
มีพื้นที่ตำบลทั้งหมด 73.50 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น 6 หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่ 1 บ้านพอด มีจำนวนประชากร ชาย 367 คน หญิง 405 คน
หมู่ที่ 2 บ้านครามล่าง มีจำนวนประชากร ชาย 134 คน หญิง 150 คน
หมู่ที่ 3 บ้านดอนเกลี้ยง มีจำนวนประชากร ชาย 83 คน หญิง 93 คน
หมู่ที่ 4 บ้านครามบน มีจำนวนประชากร ชาย 175 คน หญิง 164 คน
หมู่ที่ 5 บ้านดอนเนาว์ มีจำนวนประชากร ชาย 148 คน หญิง 147 คน
หมู่ที่ 6 บ้านหาดใหญ่ มีจำนวนประชากร ชาย 183 คน หญิง 191 คน

จำนวนครัวเรือน 888 ครัวเรือน จำนวนประชากรในตำบลชลครามในปี พ.ศ. 2549 มีจำนวนดังนี้
ชาย 1,090 คน หญิง 1,150 คน รวม 2,240 คน

สภาพทั่วไป
ที่ตั้ง
องค์การบริหารส่วนตำบลชลครามเป็นตำบลหนึ่งของอำเภอดอนสัก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอำเภอ ห่างจากอำเภอดอนสักประมาณ 18 กิโลเมตร พื้นที่บางส่วนติดบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง
อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อ อ่าวบ้านดอน โดยมีแนวเขตเริ่มต้นที่ปากคลองนุ้ย บริเวณพิกัด NL635249 ไปทางทิศตะวันออกที่ปากคลองท่าทอง บริเวณพิกัด N L 688260 รวมระยะทางด้านทิศเหนือประมาณ 6 กิโลเมตร
ทิศใต้ ติดต่อ ตำบลท่าอุแท อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฏร์ธานี โดยมีแนวเขตเริ่มต้นที่กึ่งกลางคลองท่าทอง บริเวณพิกัด NL 687175 ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือตามแนวคลองท่าทอง สิ้นสุดที่บริเวณพิกัด 653196 รวมระยะเวลาทางด้านทิศใต้ประมาณ 7 กิโลเมตร
ทิศตะวันออก ติดต่อ ตำบลไชยคราม อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฏร์ธานี โยมีแนวเขตเริ่มต้นที่ปากคลองคราม บริเวณพิกัด NL 688260 ลงมาทิศใต้ตามแนวคลองคราม บรรจบคลองท่าทอง สิ้นสุดที่บริเวณพิกัด NL 687175 รวมระยะทางด้านทิศตะวันออกประมาณ 15 กิโลเมตร
ทิศตะวันตก ติดต่อ ตำบลท่าอุแท และตำบลท่าทอง อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฏร์ธานี โดยมีแนวเขตเริ่มต้นที่คลองท่าทอง บริเวณพิกัด NL 653196 ไปทางทิศเหนือถึงบริเวณพิกัด NL 652207 ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ถึงพิกัด NL 636220 ไปทางทิศเหนือบรรจบคลองนุ้ยที่บริเวณพิกัด NL 632237 ไปทางทิศเหนือตามคลองนุ้ย สิ้นสุดที่ปากคลองนุ้ย บริเวณพิกัด NL 635249 รวมระยะทางด้านทิศตะวันตกประมาณ 7 กิโลเมตร

สภาพภูมิอากาศ

สภาพภูมิอากาศของตำบลบ้านทำเนียบ ร้อนชื้น ฝนตกชุก มีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 30 องศาเซลเซียส

ภูมิประเทศ

สภาพพื้นที่เป็นที่ราบชายฝั่งทะเล มีที่ราบลุ่มเหมาะกับการทำเกษตร ฤดูฝนจะมีน้ำท่วมเป็นขัง เนื่องจากน้ำป่าไหลลงทะเลไม่สะดวกเพราะมีถนนและคลองชลประทานขวางกั้นและมีน้ำทะเลหนุนขึ้น คลื่นซัดขึ้นฝั่งน้ำท่วมบ้านประชาชน ถนนสายเรียบริมทะเลมีความเสียหาย ส่วนฤดูแล้ง เกิดน้ำกร่อย น้ำทะเลไล่น้ำจืดพื้นทางการเกษตรเสียหาย ด้านทิศเหนือเป็นชายฝั่งทะเลติดอ่าวบ้านดอน ปากคลองครามมีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรชายฝั่งทะเล ลักษณะพื้นที่ชายฝั่งเป็นดินเลน

แหล่งน้ำล้ำค่า พึ่งพาตนเอง
แข็งแกร่งประมง มั่นคงการเกษตร
ภูมิประเทศสมบูรณ์ เกื้อกูลชุมชน

เริ่มต้นตั้งแต่การแยกตัวออกจากอำเภอกาญจนดิษฐ์มาเป็นอำเภอดอนสัก เนื่องจากอำเภอกาญจนดิษฐ์ มีพื้นที่มากตลอดถึงประชาชนซึ่งไม่สะดวกในการปกครองดูแลไม่ทั่วถึง ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงแยกอำเภอกาญจนดิษฐ์ ตั้งเป็นกิ่งอำเภอดอนสัก โดยมีปลัดลาภ ลาภชูรัตน์ เป็นผู้รักษาการแทนนายอำเภอดอนสัก ส่วนตำบลชลครามซึ่งมีอาณาเขตติดต่อใกล้เคียงกับอำเภอดอนสัก จึงได้โอนให้ตำบลชลครามมาขึ้นกับอำเภอดอนสัก ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

สำหรับองค์การบริหารส่วนตำบลชลคราม ได้รับการจัดตั้งเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2540 ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศทั่วไป เล่ม 113 ตอนพิเศษ 52 ลงวันที่ 16 ธันวาคม 2539 ลำดับที่ 2989

เนื่องจากบ้านพอด หมู่ที่ 1 ตำบลชลคราม มีที่ตั้งติดชายทะเลฝังอ่าวไทย มีสัตว์น้ำธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ การประกอบอาชีพของชาวบ้านส่วนมากจะยึดอาชีพด้านการประมงเป็นหลัก รองลงมาคืออาชีพรับจ้าง และการค้าขาย ส่งผลในการดำเนินกิจกรรมกลุ่มของชุมชนจึงเกี่ยวข้องกับการแปรรูปอาหารทะเลเป็นส่วนใหญ่ เช่น
1. กลุ่มแปรรูปอาหารทะเล (แปรรูปน้ำปลา) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อของชุมชน โดยใช้วัตถุดิบในชุมชน มาผสมกับภูมิปัญญาของการถนอมอาหารของชุมชนมาใช้ในกระบวนการผลิตเป็นหลัก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า OTOP ระดับอำเภอ และระดับจังหวัด โดยมีตลาดการจำหน่ายทั้งภายในชุมชน ภายนอกชุมชน และร้านค้าเครือข่าย OTOP อำเภอ ปัจจุบัน เงินทุนหมุนเวียนประมาณ 50,000 บาท มีอุปกรณ์ โรงเรือน คิดเป็นเงิน ประมาณ 400,000 บาท มีนางอุตสาห์ นุ่นสังข์ เป็นประธานกลุ่ม
2. กลุ่มอนุรักษ์อาชีพประมงพื้นบ้าน
3. กลุ่มแปลงสินทรัพย์เป็นทุน (ธนาคารอาหารทะเลปลอดภัย)

- ชายทะเลฝังอ่าวไทย ทอดยาวระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร สามารถมองเห็นเกาะน้อย ใหญ่ในท้องทะเล และเจดีย์วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ (วัดหลวงพ่อจ้อย) ได้อย่างเด่นชัด
- การเยี่ยมชมการประกอบอาชีพประมงชายฝังแบบวิถีชาวบ้าน

บ้านพอด มีเส้นทางคมนาคมที่สามารถเดินทางได้โดยสะดวกทั้งเส้นทางระหว่างตำบลระหว่างอำเภอและกับตัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยใช้เวลาในการเดินทาง ด้วยพาหนะส่วนตัว ประมาณ 20-25 นาที